วันพุธ, กันยายน 28, 2554

แจกโปรแกรมจับเวลาสำหรับ Mac ฟรี : Apimac Timer เจ๋งมาก

ผมใช้อยู่ทุกวันครับตัวนี้ เมื่อตอนที่เขียนบล๊อคไปนานๆแล้วต้องการจะงีบสิบนาที จะมีประโยชน์มาก โปรแกรมนี้หลักๆทำได้สามอย่างคือ


  1. จับเวลา - จับเวลาไปเรื่อยๆ และสามารถตั้งให้เตือนด้วยเพลงใน iTunes ทุกๆกี่นาทีกี่วินาทีก็ได้
  2. นับถอยหลัง - สามารถนับถอยหลังและตั้งเสียงเตือนได้ไฟล์เสียงหรือเพลงใน iTunes
  3. นาฬิกาปลุก - ปลุกเลือกเสียงเองได้และปลุกได้เองทุกวัน
คุณสมบัติเสริมอื่นๆก็มีดังนี้
  • แสดงผลเต็มหน้าจอได้
  • ย่อลงไปให้เหลือแต่ icon บนจอได้
  • สามารถเปิดหลายๆนาฬิกาได้พร้อมกัน
เป็นโปรแกรมที่ดีมากๆทีเดียวครับ

ดาวน์โหลดได้ที่นี่
http://www.apimac.com/sw/timer.dmg


วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 26, 2553

Bing vs. Google, Google ชนะ

มาพร้อมหลักฐาน...


คดีเจ็ดหมื่นสองพันล้าน


Bing vs. Google (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)




Google ชนะแบบไม่เห็นฝุ่นจริงๆ



Bing ยังต้องพัฒนาอีกต่อไป แต่ Google จะพัฒนาหนีไปเรื่อยๆ

ยังไงก็คงจะตามไม่ทัน

น่าสงสาร

วันจันทร์, พฤศจิกายน 09, 2552

ประโยชน์ของถ้วยมาม่า

วันนี้ลองไป google เรื่องถ้วยมาม่าดู ได้คำอธิบายแบบ"อ่านแล้วเข้าใจหว่ะ" และชัดเจนมากๆจากนายตากล้องครับ

มาดูกัน





หน้าที่หลักของถ้วยมาม่า (diffusion cup) คือ กระจายแสง ให้กว้างออกไป

การกระจายแสงให้กว้างออกไป โดยตัวของมันเอง ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า การกระจายแสงให้กว้างออกไป

หมายถึง คนที่ยืนอยู่รอบๆ ก็จะโดนแสงไปด้วย

ถามว่า ทำให้ภาพนุ่มขึ้นหรือไม่ ตอบว่า ไม่ครับ แต่มันจะ กระจายแสงออกไป กว้างขึ้น

หมายความว่า แฟลชต้องใช้กำลังไฟ มากกว่าปกติ เพื่อให้ตัววัตถุที่มันต้องการ สว่างเท่าเดิม

แทนที่ว่า ปกติ ถ้ายิงตรงๆ แฟลชใช้พลังงาน 10% ก็ได้ความสว่างที่ ตัวแบบพอดีแล้ว แต่พอคุณใส่ถ้วยมาม่านี้เข้าไป แฟลชต้องใช้พลังงานเพิ่มเป็น 50% ถึงจะได้แสง ที่ตัวแบบ พอดี ตามที่กล้องต้องการ

และผลที่ได้แสดงแฟลช ก็ยังไม่ได้นุ่มขึ้นมาอะไรเลย แทบจะเหมือนกับเรายิงตรงๆ

แต่สิ่งที่เสียไปคือ พลังงานอีก 40% ที่มันต้องกระจายออกไปรอบๆ โดยเปล่าประโยชน์

จึงไม่แนะนำให้ใช้ โดมกระจายแสง ทั้งแบบถ้วยมาม่านี้ หรือ แบบอื่นๆ ในการถ่ายภาพกลางแจ้ง

แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพในอาคาร ที่มีเพดาน มีผนัง ที่สามารถสะท้อนแสงกลับมายังตัวแบบได้ อันนี้ ถึงจะค่อยใช้งาน โดมกระจายแสงพวกนี้ครับ

สิ่งเดียว ที่ถ้วยมาม่า อาจจะ ดีกว่าการยิงตรง และทำให้แสงนุ่มขึ้นกว่ายิงตรง (เพียงเล็กน้อย) ก็คือ ขนาดของแหล่งกำเนิดแสง มันใหญ่ขึ้นมาจากเดิม ที่มีพื้นที่ เท่ากับ พื้นที่หัวแฟลชเล็กๆนั่น

ก็ขยายขึ้นมา (เล็กน้อย) เป็นเท่ากับพื้นที่ด้านหน้า ของปากชามถ้วยมาม่า ก็นุ่มขึ้นมา (เล็กน้อย) แต่เนื่องจาก แม้จะมีพื้นที่เท่ากับปากถ้วย แต่เมื่อนำไป เปรียบเทียบกับ ขนาดของสิ่งที่ถ่าย ซึ่งก็คือ ตัวคน 1 คน หรือ คนหลายๆคน ปากถ้วย ก็ถือว่าเป็น พื้นที่เล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับตัวคน ก็ยังคงเป็นแสงแข็งๆ อยู่นั่นเอง จึงไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะใช้ถ่าย ในที่กลางแจ้งครับ

เพราะพวก diffusion dome หรือ ถ้วยมาม่าพวกนี้ เขาออกแบบให้ใช้งาน indoor ครับ คือ ให้มันกระจายแสงออกไปกว้างๆ แล้วไปสะท้อนเพดาน สะท้อนผนังตึก ผนังห้อง กลับมาที่แบบ ถึงจะได้แสงนุ่ม (จากแสงที่สะท้อนมาจากเพดาน และผนังห้อง) ถึงจะได้แสงที่นุ่มครับ (แต่ก็เปลืองพลังงานมากเช่นเดียวกัน)

สรุปแล้ว ถ้าจะใช้ถ้วยมาม่า ควรใช้งาน indoor และหันถ้วยไปบนเพดานเป็นหลักครับ (เพดานต้องสีขาว และอยู่ไม่สูงด้วย)

ถ้าใช้งานกลางแจ้ง ไม่ควรใช้อุปกรณ์พวกนี้ครับ ควรยิงแฟลชตรงๆ จะดีกว่า (ไม่เปลืองแบตโดยเปล่าประโยชน์)

อีก นิดนึง เห็นบางคน ถ่ายภาพกลางแจ้งตอนกลางวัน แล้วเอาแฟลชยิงขึ้นฟ้า แล้วใช้แผ่นสะท้อนแสง (แผ่น bounce) แผ่นเล็กๆ สีขาวๆ ดึงขึ้นมา และให้เหตุผลว่า ต้องการแค่ fill-in เบาๆ หรือ ต้องการแค่ประกายตาที่แบบ

ผมคิดว่า ไม่น่าจะถูกต้องนัก คือ ถ้าต้องการให้แฟลชยิงเบาๆ หรือ ต้องการประกายตา น่าจะใช้วิธี ยิงแฟลชตรงๆ แล้วไป ชดเชยแสงแฟลช ไปทาง ลบ เยอะๆหน่อย เช่น - 2 EV ที่แฟลช น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

เพราะการที่คุณยิงแฟลชไปที่ท้องฟ้าตอนกลางวัน มันเป็นการผลาญแบตอย่างรวดเร็วมากนะครับ เสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ ก็ฝากกันไว้ด้วยครับ

Blog Entryการแยกร่างแบบดิจิทัลOct 22, '08 12:50 AM
for everyone
ว่างมากๆ ไม่มีอะไรทำ ออกไปไหนก็ไม่ได้ พอหยิบกล้องแล้วฝนตกตลอด เลยใส่คาถาแยกร่างให้ป้าที่บ้านเล่นๆดีกว่าครับ


การ ใช้คาถาก็ไม่ได้ยากอะไรครับ เริ่มแรกให้เดินไปที่ประตูบ้าน หมุนสามรอบ แลบลิ้นหนึ่งที จากนั้นเดินกลับมาที่กล้อง เสียบกล้องใส่ขาไว้ แล้วเดินวนขากล้องสามรอบ พร้อมพูดว่า "อู้ อ้า ๆ ๆ"เสร็จแล้วก็ตั้ง count down ด้วย เพื่อความแม่นยำของคาถา จากนั้นก็รอให้กดชัดเตอร์ พอชัตเตอร์ดังต้องร้อง อู้อ้า อีกที เสร็จแล้วไปจับเป้าหมาย ไปที่อื่น แล้วก็ไปกดชัตเตอร์นับเวลาร้องอู้อ้าอีกที ทำแบบนี้อีกครั้ง เราก็จะแยกได้สามร่าง

เสร็จ แล้วเอามาต่อคอมพ์ โดยการบูชาสาย usb สามครั้งก่อนจึงจะสามารถทำต่อได้ จากนั้นใช้โปรแกรม Adobe Photoshop ก่อนจะใช้นั้นต้องเปิดปิดโปรแกรมสามครั้งก่อน คาถาถึงจะมา แล้วก็เปิดรูปใบแรกใน photoshop ไปที่ File>place... ท่องคาถา อู้อ้า อู้อ้า คูลู คูล คูลู แล้วก็เลือกรูปใบถัดมา กด enter จากนั้นพอ place และท่องคาถาแล้ว ด้านบนจะมีปุ่มเครื่องหมายถูกโผล่ขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง ให้เราหลับตากดมันให้โดน เสร็จแล้วกรอบ X บนรูปจะหายไป แปลว่าพิธียังทำถูกต้อง แล้วเลือกยางลบที่เมนู บูชาสามที เสร็จแล้วลบทุกอย่างออกยกเว้นตัวเป้าหมายจากรูปที่สอง และทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ ตามจำนวนภาพที่ถ่ายมาเมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้วบูชาคอมพ์ตัวเองสามที ระรึกถึงผู้สร้าง ก็เป็นอันเสร็จพิธี หรือถ้ายังไม่อาจเสร็จก็ทำอะไรต่างๆนาๆ ยำลงไปด้วยอารมณ์ศิลปินที่ระเบิดออกมาได้ครับ

ปล.เป็นเอามากหว่ะ

วันเสาร์, ตุลาคม 17, 2552

101วิธี มอบยิ้มให้คนอื่นง่ายๆ โลกจะสวยด้วยมือเรา!

01. โทรหาเพื่อนเก่า แค่จะกล่าวคำทักทาย
02. เปิดประตูรอคนแปลกหน้า
03. ชวนบางคนไปทานข้าวเที่ยง
04. ชื่นชมรูปลักษณ์ของคนอื่น
05. ถามความเห็นเพื่อนร่วมงานในการทำโปรเจค
06. เอาฮานามิ(ข้าวเกรียบรวยเพื่อน)ไปที่ทำงาน

วันพุธ, ตุลาคม 14, 2552

Windows Live Mobile Messenger for Symbian ตัวที่ใช้ได้

สำหรับ Nokia Symbian s60 ดาวน์โหลดได้ที่นี่
Download Now!

ดาวน์โหลด Windows Live Messenger 8.5 และสามารถลงใช้

ดาวน์โหลด Windows Live Messenger 8.5 ได้ืั้นี่

part 1

part 2

ใช้ Winrar หรือ 7Zip แตกไฟล์


ถ้าหากท่านยังใช้ Windows Live Messenger 9 อยู่ ให้ทำการ Uninstall ออกก่อน หลังจากนั้นก็ติดตั้งตัวที่โหลดมาได้เลยครับ

ขอให้มีความสุขกับ Messenger เวอร์ชั่นเก่าครับ

วันเสาร์, ตุลาคม 10, 2552

เปิดใช้การบันทึกเสียงแบบ Stereo Mix ใน Windows 7

แปลมาโดย PinMEMO

Stereo Mix ถูกปิดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วใน Windows 7 รุ่นต่างๆที่ถูกปล่อยออกมาจนถึงเดี๋ยวนี้

วิธีเปิด:
->> ไปที่ Control Panel
->> Hardware and Sound
->> Manage Audio devices
->> กดที่ Recording แท๊บ คลิกขวาตรงที่ว่างๆ เลือกติ๊กถูกที่ "Show Disabled Devices" และ "Show disconnected devices"
->> คลิกขวาที่ Stereo Mix คลิก enable

credit: HAckEur จาก neowin forum

วันศุกร์, ตุลาคม 02, 2552

เปลี่ยน Start bar ของ Windows XP ให้เป็นเหมือน Win 7 ด้วย ViGlance และ ViStart

Start bar ของ Windows 7 ได้สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นระดับมาก สำหรับคนที่เปิดอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน สมัยที่ยังใช้ Windows XP หรือ Vista เอง Start bar ก็จะรกไปด้วยชื่อและตัวเลขของกลุ่มโปรแกรม แต่ start bar ของ Windows 7 จะทำให้ปัญหานั้นหมดไป


Windows 7 เป็นระบบปฎิบัติการตัวใหม่ล่าสุดของ Microsoft ที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ และหลายๆคนคงจะได้ทดลองใช้เวอร์ชั่น Release Candidate (RC) กันไปบ้างแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่มัน Expire เราอาจจะได้กลับไปใช้ Windows XP ตามเดิม หรือบางท่านที่ไม่ได้ใช้ Win 7 เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์รองรับไม่ได้ ก็สามารถให้ XP มี Start bar แบบ Win 7 ได้ด้วยสองโปรแกรมนี้ คือ ViGlance ที่จะเปลี่ยนจากชื่อที่อยู่บน Start bar เป็นเพียง icon ของโปรแกรมนั้นๆเหมือนกับ Win7 และ ViStart จะทำให้เราสามารถใช้การเข้าโปรแกรมแบบเร่งด่วน เช่นเดียวกับใน Vista แต่เร็วกว่ามาก




รูปจากเว็บไซท์ของผู้พัฒนา




คลิปแสดงตัวอย่างการติดตั้งและใช้งาน

เริ่มจากตัวโปรแกรม ViGlance สามารถดาวน์โหลดได้โดยคลิกที่นี่ (จากเว็บ Lee-Soft)
วิธีติดตั้ง ให้แตกไฟล์ rar แล้วรันโปรแกรม เป็นอันเสร็จ

โปรแกรมจะลงไปอยู่ใน task icon (ปุ่มเล็กด้านขวาล่างของหน้าจอ) สามารถตั้งค่าได้โดยคลิกขวา>Option

และ ViStart ดาวน์โหลดได้โดยคลิกที่นี่ (จากเว็บ Lee-Soft)
วิธีติดตั้งเหมือนเดิม คือแตกไฟล์ rar และดับเบิ้ลคลิก แล้วใช้ได้เลย


โดยทั้งสองโปรแกรมสามารถใช้กับ Theme ของ Windows XP เดิมๆได้เลย แต่ถ้าหากต้องการ Theme ของ Win 7 ก็สามารถดาวน์โหลดได้โดยคลิกที่นี่ (Vishal Gupta)

วันศุกร์, กันยายน 11, 2552

สัมภาษณ์: มุมมองเล็กพริกขี้หนูของตาสี แฟนฟุตบอลไทย

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2552 เมืองทองยูไนเต็ด พบ บางกอกกลาส เอฟ. ซี. จาก BangkokGlassFC


ช่วงนี้หลายๆท่านคนได้ยินข่าวเกี่ยวกับ"ฟุตบอลไทย"ไม่มากก็น้อย ซึ่งในช่วงหลังมานี้ รู้สึกเหมือนจะเป็นช่วง"ขาขึ้นแบบสุดๆ"(และจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ)ของฟุตบอลไทยแล้ว วันนี้ผมได้ไปคุยกับพี่คนหนึ่ง ก็คุยไปเรื่อยเปื่อยจนมาจบที่เรื่องฟุตบอลไทย ซึ่งพี่คนนี้มีความคิดที่น่าสนใจและน่าติดตามมาก ผมเลยลองถามความคิดเห็นกับบางเรื่อง ได้ความดังนี้ครับ




คิดว่าตอนนี้วงการบอลไทยเป็นอย่างไรครับ ?

ตาสี: ในส่วนของลีกภายในประเทศนะครับ ปีนี้ถือว่ากระแสบอลไทยมาแรงมากๆ แต่ละสโมสรมีการจัดการบริหาร ที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสนามที่มีการปรับปรุงอัฒจันทร์สำหรับแฟนบอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของแฟนบอลบอลก็มีรูปแบบของการเชียร์ที่พัฒนาขึ้นในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างจริงจัง โดยเฉพาะสื่อที่เป็นโทรทัศน์ที่คนทั้งประเทศสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ในส่วนของทีมชาติ ก็คงต้องหวังพึ่งการบริหารงานของสมาคมให้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ และจริงใจต่อแฟนบอลในการบริหารงานภายในสมาคมเอง จะทำให้ศรัทธาของแฟนบอลชาวไทยกลับคืนมาได้อย่างในอดีตที่ผ่านมาครับ


คิดว่าการถ่ายทอดสดลีกไทยตอนนี้เพียงพอหรือไม่ครับ ?

ตาสี: ยังไม่พอครับ การแข่งขันใน 1 สัปดาห์มีด้วยกัน 2 วันคือวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ตอนนี้ทางช่อง 11เลือกที่จะถ่ายทอดสดในบางนัด และเวลาเริ่มในการถ่ายทอดสดคือ 16.00 น.ซึ่งตรงเวลาตรงนี้จะมีผลกระทบกับกองเชียร์หลายๆ คนที่อยู่ในวัยทำงาน ที่อาจจะยังไม่เลิกงาน หรือกำลังจะเลิกอาจจะทำให้พลาดการเข้าไปชมในสนามหรือพลาดการชมการถ่ายทอดสดได้ รัฐควรให้การสนับสนุนการถ่ายทอดสดในเวลา 18.00 น. ครับ จะสามารถทำให้แฟนบอลต่างจังหวัดสามารถรับชมได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ แล้วก็ระหว่างการถ่ายทอดสดจะมีโฆษณาขั้นระหว่างการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ช่อง 11 เป็นของกรมประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นช่องของรัฐไม่ควรจะมีโฆษณาเข้ามาเกี่ยวข้องครับ


ลีซอบอกว่าปัจจัยที่ทำให้วงการบอลไทยไม่พัฒนา คือความรุนแรงในหมู่คนดูครับ คุณคิดยังไงกับส่วนนี้ ?

ตาสี: ตรงนี้อาจจะมีการรณรงค์ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับระเบียบการเชียร์ให้ผู้ที่มาชมการแข่งขันว่าสิ่งใดห้ามทำในการเชียร์ เมื่อเกมการแข่งขันจบลงอยากจะให้แฟนคลับของทั้ง 2 ทีม จบลงแค่นั้น เอาเกมการแข่งขันทั้ง 2 ทีมมาสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันดีกว่าครับ เพื่อวงการฟุตบอลไทย ส่วนหนึ่งของการเกิดความรุนแรงก็มาจากการดื่มสุราเข้าไป ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปอาจจะทำไปโดยขาดสติ แสดงอะไรออกมาที่จะเป็นจุดทำให้เกิดความรุนแรงได้ แล้วก็อีกส่วนที่มาจากกรรมการผู้ตัดสิน ที่อาจจะตัดสินในการทำฟาวล์ในบางจุดที่ไม่ชัดเจนออกไป ทำให้กองเชียร์ที่ไม่พอใจต่อคำตัดสินมีอารมณ์ได้ครับ หลังจากจบเกมแล้วกองเชียร์ควรจะยอมรับคำตัดสินของกรรมการครับ ควรจะมีการอบรมกรรมการให้มีการตัดสินที่เป็นมาตรฐานเดียวกันครับ จะทำให้แฟนบอลมีความรู้สึกพอใจกับคำตัดสินที่เกิดขึ้นในเกมมากขึ้น แล้วก็ต้องมีการรณรงค์การเชียร์กีฬา(ไม่ใช่แค่ฟุตบอล)การเชียร์อย่างสร้างสรรค์ครับ เพราะทำแบบนั้นถือเป็นการทำลายวงการกีฬาได้ครับ อย่างที่เขาบอกว่า "บอลไทยไปมวยโลก" ซึ่งพอผมเห็นใครพูดหรือข้อความประโยคนี้ผมไม่ชอบมากๆ ครับ แล้วก็นักกีฬาในสนามควรจะมีสมาธิกับเกม อย่าใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องครับ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วมีแต่ผลเสียครับ แถมทำให้วงการฟุตบอลไทยจะเสื่อมลงไปอีกครับ


คิดว่าเราควรทำอย่างไรให้คนไทยหรือเยาวชนไทย หันมาดูกีฬาไทยเยอะขึ้นครับ ? เพราะเท่าที่สำรวจมาคือ บอลไทยหรือกีฬาไทยที่ไม่ใช่นัดสำคัญจริงๆ จะไม่มีผู้ชมดูเลยครับ

ตาสี: ทั้งจากสื่อควรให้มีการถ่ายทอดสดให้ชม มีการนำเสนอกำหนดการแข่งขันก่อนการแข่งขันสักระยะ มีการสรุปผลการแข่งขันความเคลื่อนไหวในวงการในข่าวรายวัน มีการประชาสัมพันธ์ที่ดีกว่านี้ครับ ทางสมาคมต้องมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ครับ


ทางสมาคมมีจุดบกพร่องตรงไหนเหรอครับ ?

ตาสี: หลายๆ เรื่องครับ ทั้งการจัดการบริหารภายในสมาคมเอง การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการแข่งขันแต่ละนัดของทีมชาติไทย ซึ่งตรงนี้มีน้อยมากครับ ต่างจากการแข่งขันกับการเอาทีมลีกจากต่างประเทศมาแข่งกับทีมชาติไทย ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ก่อนการแข่งขันหลายเดือนเลยทีเดียว สมาคมต้องมีการหาทีมมาอุ่นเครื่องให้กับทีมชาติไทย โดยทีมที่มาอุ่นเครื่องควรจะเป็นทีมชาติเหมือนกัน ไม่ใช่ทีมสโมสรดังๆ จากลีกต่างประเทศครับ สมาคมควรเปิดโอกาสให้เด็กใหม่ดาวรุ่งทั้งจากลีกภายในประเทศ และจากต่างประเทศ ทั้งที่เป็นคนไทยแท้ๆ และเป็นลูกครึ่ง ผู้ซึ่งพร้อมจะเข้ามาเล่นให้กับทีมชาติไทยด้วยครับ



ขอบคุณพี่สีมากๆครับ ที่ให้ผมสัมพาษณ์ มีอะไรอยากจะเสริมไหมครับ ?

ตาสี: อยากให้คนไทยหันมาสนใจฟุตบอลไทยให้มากกว่านี้ครับ ให้มากกว่าไปสนใจดาราเกาหลีครับ นี้ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งของผมนะครับ ยังมีความเห็นจากแฟนบอลชาวไทยอีกหลายคน ผมขอฝากเว็บของวงการฟุตบอลไทยด้วยครับ THAILANDSUSU และ CHEERBALLTHAI ทั้งสองเว็บจะเป็นชุมนุมของแฟนๆ บอลชาวไทย ที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับฟุตบอลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน สรุปผลการแข่งขัน ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของวงการฟุตบอลไทย





อนาคตของวงการฟุตบอลไทยจะเป็นอย่างไร ผู้มีอำนาจจะส่งเสริมฟุตบอลไทยมากน้อยแค่ไหน แฟนบอลชาวไทยจะมาให้ความสนใจฟุตบอลไทยมากขึ้นหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ


แนะนำติชมได้ครับ

คุณคาดหวังให้ Firefox บริโภค RAM มากแค่ไหน

ล่าสุดผมใช้ Firefox 3.5 ไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยนิสัยผมแล้วเป็นคนไม่ชอบปิด tab คือเปิด open in new tabs ไปเรื่อยๆ เนื่องจากใช้ Fire Gesture ซึ่งสะดวกมาก แค่คลิกขวาที่ลิงค์แล้วลากลงก็เปิดใน tab ใหม่แล้ว

ทำจนเป็นนิสัย แก้ไขยาก

จนได้ภาพตามนี้


น่าประทับใจมากครับ เปิดทั้งหมด 131 tabs ใช้ RAM ไป 600 mb ครับ

จากที่ปกติ ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเปิด tab ได้มากมายขนาดนั้นเลย

เว็บทีเ่ปิดเป็นเว็บทั่วๆไปครับ เช่นพันทิป สนุก กาปุก gmail facebook hi5 ครับ